เมื่อวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา ทางพิธีกรสาว ‘บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี‘ ได้มีการออกมาเปิดใจเล่าเส้นทางรักย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว หลังเลิกรากับอดีตสามี ‘เอก เอกริน นิลเศรษฐี‘ ผ่านรายการ ‘Club Friday Show‘ ทางช่อง ‘one31‘ เผยวิธีรับมือกับลูกหลังบอกเลิกอดีตสามี แนะอย่าโกหกเด็ก อย่าคิดว่าเด็กไม่รู้ พร้อมเล่าเหตุการณ์ที่เป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้าย โดยระบุว่า
“พอถึงจุดที่เขาเป็นตัวของตัวเองได้ มันก็ไปกับเราไม่ได้ เราเลือกงานของตัวเองมากกว่าเขา
ครั้งหนึ่งเราเอาเบาะไปให้เด็กพิการที่ต่างจังหวัด แต่เขากลับนั่งเล่นเกมอยู่ในรถ ไม่มาช่วยยกของ เหมือนมันคือสิ่งที่เราอยากทำ เขาไม่ได้อยากทำ จนทีมงานก็มองกันใหญ่ คนรอบข้างมองว่ามันไม่เหมาะ เราก็บอกเลยว่าเขาไม่ผิด แต่เราก็ไม่ผิดที่จะรู้สึก
นอกจากนี้เขายังเล่นเกมจนดึกแล้วตื่นเที่ยง แต่เราต้องรีบนอนเพราะทำรายการเช้า ทำให้เรานอนน้อย ตื่นเที่ยงไม่ว่า แต่น่าจะจัดการเรื่องในบ้านบ้าง เช่น พาหมาไปอาบน้ำ แต่กลายเป็นว่าเขาตื่นเลตกว่านั้นทำให้พาหมาไปอาบน้ำไม่ทัน เขาจัดการอะไรในบ้านไม่ได้เลย แล้วเรารู้สึกว่า เราจะอยู่ด้วยกันทำไม
สิ่งที่เป็นฟางเส้นสุดท้ายคือวันที่เราไปยิมแล้วเห็นเอกสารใบหุ้นยิม หุ้นของบุ๋มเหลือแค่ 1% โดยที่บุ๋มไม่รู้เรื่อง เราสร้างอะไรมาด้วยกัน ทำไมทำกันแบบนี้ แต่เขากลับบอกว่า เดี๋ยวก็เปลี่ยนตัวเลขได้ แต่เราเสียความรู้สึกไปแล้ว มันไม่แฟร์ มันก็เลยจบเลย ยอมรับว่าเป็นฝ่ายบอกเลิกก่อน แต่การบอกเลิกก่อนก็เจ็บไม่น้อย มันคือความรู้สึกที่ เราไม่อยากเลิก แต่เราจะให้มันเป็นแบบนี้อีกเหรอ
การตัดสินใจในครั้งนี้ คิดมาดีแล้วครึ่งปี ไม่ใช่ด้วยอารมณ์ ด้วยเหตุและผล ด้วยการพยายามยื้อและปรับทุกอย่าง ไม่อยากพูดถึงเขาเยอะมาก เพราะเขาเพิ่งแต่งงานใหม่ และคนก็เขียนข่าวว่า แฟนเก่า บุ๋ม ปนัดดา แต่งงานใหม่ เป็นภาพเขากับเจ้าสาว แต่กลับไม่มีชื่อเจ้าสาวของเขาเลย มีแต่ชื่อบุ๋ม จนบุ๋มก็รู้สึกแย่และเห็นใจผู้หญิงมากกว่า
ส่วนลูกสาว ‘น้องอันดา‘ ไม่ได้เห็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้น แต่ลูกสาวจะรู้จากปากแม่ ว่าเลิกแล้วนะ ขนของแล้วนะ บุ๋มไม่ได้ปิดบังลูก และบอกเลยว่าอย่าโกหกเด็ก อย่าคิดว่าเด็กไม่รู้ เด็กรู้ และรู้ดีด้วย แต่เขารู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องของเขา เราทำให้เขาเห็นว่า ชีวิตเขาวันหนึ่งก็อาจจะเจอเรื่องแบบนี้ ดังนั้นหนูอย่าฟูมฟายกับความรัก หนูจงทำหน้าที่ของหนูต่อไป หนูจงเข้มแข็ง และรักตัวเองให้มากที่สุด และเราต้องเป็นตัวอย่างให้กับเขา”
ก่อนจะประกาศเสียงโผงผางฟังชัดตามสไตล์ว่า หากทนายรัชพลยังมีความเป็นลูกผู้ชายก็ต้องออกมาขอโทษต่อหน้าตนเองและสื่อมวลชนถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ก่อนจะยื่นคำขาดว่าจะยืนรออยู่ที่หน้ากองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) หากยังไม่มาก็จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ขณะเดียวกันยังมีรายงานด้วยว่าระหว่างที่ ลีน่าจัง เดินเข้าห้องพนักงานสอบสวนยังพูดต่อว่าด่าทอผ่านสื่อมวลชนไปถึงกลุ่มผู้มีชื่อเสียงอีกหลายราย ที่เคยพูดพาดพิงว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าวอีกด้วย
“ป๋อ ณัฐวุฒิ” เล่าความหลังกองถ่าย กราบคุณพลอยไพลิน เหม็นหน้ารุ่นน้อง เพื่อนดาราปากเหม็น
เผยเรื่องลับของ “ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ” แฉประสบการณ์วงการบันเทิง เอือมพฤติกรรมรุ่นน้องนักแสดงท่านหนึ่ง พร้อมแจงสาเหตุกราบเท้าคุณพลอยไพลิน “ป๋อ- ณัฐวุฒิ สกิดใจ” พระเอกดังมากประสบการณ์ เปิดอกคุยย้อนวันวานเรื่องราวในอดีต กลางรายการ SING WITH ME ร้องกับซี EP.27 เมื่อวันอังคารที่ 10 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา หลังตอบคำถามว่า 23 ปี ที่ทำงานมา มีไม่ชอบใครบ้างไหม ทางด้านของ “ป๋อ ณัฐวุฒิ” ตอบกล่าวยอมรับว่า
“มี แต่ไม่อยากบอกว่าใคร อารมณ์เหมือนไม่อยากไปทำงาน ไม่อยากเล่นละครกับคนคนนี้เลย และได้อธิบายถึงบุคคลดังกล่าวต่อว่ามันไม่ตั้งใจเลย เล่นไม่ได้จนคนมาบรีฟก็ทำไม่ได้ ไม่เข้าใจ คือไม่รู้เหี้…อะไรเลย ถึงขั้นเคยพูดกับผู้ช่วยว่า เบรกไปฝึกน้องก่อนไหมสักเดือน ให้น้องไปอ่านบทก่อน เคยไหมต้องเล่น 7 เทคตลอดเวลา 7-8 ครั้งเหนื่อย เพราะเขาไม่ตั้งใจ”
ทั้งนี้ในปัจจุบัน “ป๋อ- ณัฐวุฒิ สกิดใจ” ไม่ได้ติดใจอะไรกับเรื่องดังกล่าวแล้ว พร้อมทั้งอธิบายว่าตนเองเข้าใจว่า น้องนักแสดงดังกล่าวยังเป็นนักศึกษา มีเรื่องเรียน ทำโปรเจ็กต์ เรื่องความรักเข้ามารุมเร้าโดยกล่าวว่า “ทุกวันนี้เราเข้าใจวันนั้นเราอาจจะเหมือนศูนย์รวมจักรวาล เหมือนพระอาทิตย์ที่พร้อมจะแผด แต่จริงๆเราไม่ได้ทำร้ายอะไรเขา แต่ความรู้สึกเราไม่ชอบเด็กคนนี้เลย บอกจนไม่บอกดีกว่า”
สำหรับคูกรณีของ ป๋อ อีกท่านหนึ่งระบุว่าเป็นเรื่องของกลิ่นปาก “ไม่กล้าจริง ๆ ถ้ามีโอกาสอยากจะไปขอโทษเขาเหมือนกัน ไม่ใช่ขอโทษอยากไปปฏิบัติดีกับเขาเหมือนกัน ตอนนั้นไม่ค่อยคุยกับเขา คุยแบบมีระยะ”
ในส่วนของประสบการณ์ทำงานในวงการบันเทิง “ป๋อ- ณัฐวุฒิ สกิดใจ” เล่าถึงช่วงเวลาที่ตนเองได้ร่วมแสดงคู่กับ คุณพลอยไพลิน ในละครโทรทัศน์เรื่อง “ดาวหลงฟ้า ภูผาสีเงิน” ป๋อ กล่าวต่อว่า คุณพลอยไพลิน ลิสต์ชื่อพระเอกมา 10 คน ไม่มีชื่อป๋อเลย พอบอก ป๋อ ณัฐวุฒิ ทุกคนถามเลยว่าทำไม ไม่คิดว่าตัวเองจะมีปัญญาได้เล่น ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ คุณแดง สุรางค์ ให้โอกาสได้เล่นเรื่องนี้
“อันนี้จะไม่มีใครรู้เลย เป็นครั้งแรกที่จะพูดในรายการนี้เลย คือพบจบซีนสุดท้าย เป็นคัตสุดท้าย ที่คุณพลอยไพลินหมดเรื่องนี้ ผมกราบคุณพลอยเลย ผมกราบเท้าคุณพลอยเลย ผมผิดพลาดอะไรผมขอโทษ ผมเชื่อว่ามันจะเปลี่ยนชีวิตผมไปเลย ตอนนั้นก็ไม่คิดว่ามันจะดังขนาดนี้ มันสุดเกินคาด”
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> สล็อตแตกง่าย แทงบอลออนไลน์